วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วันเกิดสื่อถึงวิญญาณ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์ ในสภาพที่คุณอ่อนแอไม่ทางกายก็ทางใจ
เพราะบางสิ่งที่กำลังจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ อาจทำให้คุณเห็นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ผู้ที่เกิดวันนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือ ห่างไกลการมองสะท้อนของกระจก โดยเฉพาะกระจกร้าว
ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป และอย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเสียงเรียกร้อง
เพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงทวงถามวิญญาณของคุณ
ผู้ที่เกิดวันอังคาร ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าผ่านถ้าไม่จำเป็น เพราะอาจมีบางสิ่งแฝงกาย
และติดตามตัวคุณ มิฉะนั้นคุณอาจเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเห็น หรือคุณอยากลองดีก็เชิญ
ผู้ที่เกิดวันพุธ ห้ามเด็ดขาดกับการไปงานศพ เพราะว่าจะมีภูตผีตายโหงสิงสถิตติดตามตัว แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังกลับจากพิธีให้รีบอาบน้ำ โดยเฉพาะน้ำว่าน ก่อนเที่ยงคืน
ผู้ที่เกิดวันพฤหัส อย่ามองหัวบันไดในที่มืด อย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเรียกชื่อคุณ คุณไม่ได้หูแว่วหรอก
เพียงแต่มีบางสิ่งต้องการที่จะสื่อบางอย่างกับคุณ ให้คุณหลับตาแล้วถอยหลัง 1 ก้าวแล้วเสียงจะหายไป
ผู้ที่เกิดวันศุกร์ กรรมอดีตจากชาติภพที่แล้วกำลังติดตามเป็นเงา ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางน้ำเพราะว่าธาตุน้ำ
อาจเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ อย่าแปลกใจที่คุณจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนอย่างโหยหวน เพราะว่าดวงวิญญาณกำลังรายล้อมรอบตัวคุณ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเกิดวันนี้ก็คือ อย่าจ้องมองศาลพระภูมิ

มงคลที่ ๙ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว เป็นมงคลอันอุดม

เรื่อง สุนัขจิ้งจอกไม่สำรวม

ในอดีตกาลมีฝูงแพะหลายร้อยตัวอาศัยอยู่ในภูเขาใกล้ป่าหิมพานต์ ในกลุ่มฝูงแพะนี้แม่แพะชื่อเมณฑมาตา เป็นแม่แพะที่เฉลียวฉลาดมาก และในป่าใกล้ ๆ กับภูเขา มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชื่อปูติมังสะ อยู่กับภรรยาชื่อเวณี สุนัขจิ้งจอกทั้งสองตัวได้แอบกัดไปกินแพะหลายตัว วันหนึ่งสุนัขจิ้งจอกปูติมังสะคิดอยากจะกินแม่แพะเมณฑมาตา จึงออกอุบายให้ภรรยาไปตีสนิทเป็นสหายกับแม่แพะและให้บอกว่าปูติมังสะตายแล้ว และชวนมาที่ถ้ำของสุนัขจิ้งจอกเพื่อจะได้จับกิน สุนัขจิ้งจอกภรรยาจึงไปหาแม่แพะเมณฑมาตา ร่ำไห้ว่าสามีตายแล้วจะขอมาอยู่ด้วย แม่แพะบอกว่าสามีของท่านดุร้ายกัดกินญาติของเราตายเสียมาก ขอให้ไปอยู่ที่อื่นเถิดอย่ามาอยู่ที่นี่เลย นางสุนัขจิ้งจอกก็บอกว่าบัดนี้สามีตายแล้วขอให้ช่วยไปเผาศพเถิด แม่แพะก็สงสารไปด้วย สุนัขจิ้งจอกปูติมังสะที่แกล้งทำเป็นนอนตายอยู่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก็อดรนทนไม่ได้ยกศรีษะขึ้นดู แม่แพะระมัดระวังตนอยู่แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งหนีไป นางสุนัขจิ้งจอกจึงติเตียนสามีว่า เจ้าผงกศรีษะขึ้นมาในเวลาที่ไม่สมควร ไม่สำรวม จึงทำให้ไม่ได้กินแม่แพะ

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

มงคลสูตรคำฉันท์

มงคลสูตรคำฉันท์
ผู้ทรงพระราชนิพนธ์ คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ เมื่อ
พ.ศ.2466
ลักษณะคำประพันธ์ กาพย์ฉบังและอินทรวิเชียรฉันท์ แทรกคาถาบาลี
เนื้อเรื่องย่อ
พระอานนท์ เป็นผู้เล่าว่า พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเชตวันวิหาร ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย ตอนประถมยาม มีเทวดารัศมีเจิดจ้ามาเข้าเผ้าพระพุทธองค์ ทูลถามถึงเรื่องมงคลพระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนาถึงมงคล 38 ประการ เทวดาและมนุษย์ผู้ปฎิบัติตาม จะเป็นผู้ประเสริฐ ไม่แพ้ในที่ใดๆ ได้รับความเจริญสวัสดีทุกประการ

มงคล 38 ประการเทียบกับคำฉันท์
1. ไม่คบคนพาล 1. หนึ่งคือ บ่ คบคนพาล จะพาประพฤติผิด
2. คบบัณฑิต 2. หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล
3. บูชาผู้ที่ควรบูชา 3. หนึ่งกราบก่อนบูชา อภิปูชนีย์ชน
4. อยู่ในประเทศอันสมควร 4. ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี
5. เคยทำบุญไว้กาลก่อน 5. อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล
6. ตั้งตนไว้ชอบ 6. อีกหมั่นประพฤติควร ณ สภาวะแห่งตน
7. สดับตรับฟังมาก 7. ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
8. มีศิลปะ 8. อีกศิลปศาสตร์มี จะประกอบมนุญการ
9. มีวินัย 9. อีกหนึ่งวินัยอัน นรเรียนและเชี่ยวชาญ
10.มีวาจาเป็นสุภาษิต 10.อีกคำเพราะบรรสาน ฤดิแห่งประชาชน
11.บำรุงมารดาบิดา 11.บำรุงบิดามา- ตุระด้วยหทัยปรีย์
12.สงเคราะห์บุตร 12.หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
13.สงเคราะห์ภรรยา 13.หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
14.การงานไม่คั่งค้างอากูล 14.การงานกระทำไป บ่มิยุ่งและสับสน
15.ให้ทาน 15.ให้ทาน ณ กาลควร
16.ประพฤติธรรม 16.และประพฤติสุธรรมศรี
17.สงเคราะห์ญาติ 17.อีกสงเคราะห์ญาติที่ ปฏิบัติบำเรอตน
18.ประกอบการงานไม่มีโทษ 18.กอบกรรมะอันไร้ ทุษกลั้วและมัวมล
19.เว้นจากบาป 19.ความงดประพฤติบาป อกุศลบ่ให้มี
20.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา 20.สำรวมวรินทรีย์ และสุราบ่เมามล
21.ไม่ประมาทในธรรม 21.ความไม่ประมาทใน พหุธรรมะโกศล
22.เคารพ 22.เคารพ ณ ผู้ควร จะประณตและนอบศีร์
23.สงบเสงี่ยมเจียมตัว 23.อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้างและจองหอง
24.ยินดีด้วยของของตน(สันโดษ) 24.ยินดี ณ ของตน บ่มิโลภทะยานปอง
25.รู้คุณท่าน 25.อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน
26.ฟังธรรมตามกาล 26.ฟังธรรมะโดยกา- ละเจริญคุณานนท์
27.อดทน 27.มีจิตตะอดทน และสถิต ณ ขันตี
28.ว่าง่าย 28.อีกนัยหนึ่งบ่พึงมี ฤดิดื้อทะนงหาญ
29.เห็นสมณะ 29.หนึ่งเห็นคณาเลิศ สมณาวราจารย์
30.สนทนาธรรมตามกาล 30.กล่าวธรรมะโดยกาล วรกิจจะโกศล
31.บำเพ็ญตบะ (ความเพียร) 31.เพียรเผากิเลสล้าง มละโทษะยายี
32. ประพฤติพรหมจรรย์ 32.อีกหนึ่งประพฤติดี ดุจะพรหมพิสุทธิ์สรรพ์
33.เห็นอริยสัจ 33.เห็นแจ้ง ณ สี่องค์ พระอรียสัจอัน
34.ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน 34.อีกทำพระนิพพา- นะประจักษะแก่ตน
35.จิตไม่หวั่นไหวเมื่อต้องโลกธรรม 35.จิตใครผิได้ต้อง วรโลกะธรรมศรี
36.จิตไม่เศร้าโศก 36.ไร้โศกธุลีสูญ
37.จิตปราศจากธุลี 37. ไร้โศกธุลีสูญ
38.จิตเกษม(ปลอดโปร่งจากกิเลส) 38.และสบายบ่มัวมล

แนวคิดสำคัญ
ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เกิดจากการประพฤติปฏิบัติของตนเองทั้งสิ้น หาได้เกิดจากผู้อื่น สิ่งอื่น หรือวัตถุโชคลางใดๆ จากภายนอก
มงคล หมายถึง เหตุทั้งหลายอันจะทำให้บรรลุถึงความเจริญแห่งสมบัติทั้งปวง เหตุแห่งความเจริญหรือทางก้าวหน้า มีทั้งหมด 38 ประการ
มงคลสูตร เป็นพระสูตรในขุททกนิกาย หมวดขุททกปาฐ พระธรรมเล็กๆน้อยๆ

คุณค่าที่ได้รับจากการอ่าน
1. ได้ทราบวิธีปฏิบัติตนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
2. มีคุณค่าทางด้านสังคม เพราะข้อปฏิบัติทุกข้อในมงคลสูตรล้วนมีค่าควรประพฤติปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้บุคคลและสังคมเจริญก้าวหน้า
3. ได้ศึกษาภาษากวีนิพนธ์ที่สละสลวย ไพเราะทั้งถ้อยคำและเนื้อความ

ค่านิยม
มงคลทั้ง 38 ประการ ล้วนเป็นค่านิยมทางพระพุทธศาสนา ค่านิยมสูงสุดทางพระพุทธศาสนาก็คือ นิพพาน การดับพร้อมไม่เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป


ที่มา...http://www.geocities.com/loeipitschool/ingmokol.htm

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551

10 อันดับผลไม้กินแล้วอ้วน

การกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี
เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้ผล
ไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่
อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า
อันดับ 3 คือ ขนุน
อันดับ 4 คือ กล้วยหอม
อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว
อันดับ 7 คือ ลองกอง
อันดับ 8 คือ เงาะ
อันดับ 9 คือ ลางสาด
อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด
แต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็
ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทำนายนิสัย จากรสไอศกรีมที่ชอบ

คนส่วนใหญ่ชอบทานไอศกรีมกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ ลองดูว่า ไอศกรีมที่คุณชอบจะทำนายนิสัยคุณได้ว่าอย่างไร
รสวนิลา เป็นคนที่ร่าเริง ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความรักใคร่ในศักดิ์ศรีของตน เป็นที่รักของคนทั่วไป
รสกาแฟ เป็นคนที่ชอบการทำงาน ที่ต้องอาศัยความรับผิดชอบมาก มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีลักษณะเป็นผู้นำ เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้ว
ก็ต้องทำให้สมบูรณ์กว่าผู้อื่น และเป็นคนที่ชอบการแข่งขัน
รสสตรอเบอร์รี่ เป็นคนที่ชอบทำตัวสบายๆ คบคนง่าย แม้กับคนแปลกหน้า มักมองคนในแง่ดี เป็นคนที่มีความเมตตา ชอบช่วยเหลือ และให้ความรักต่อผู้อื่น
รสช็อคโกแลต เป็นคนที่ข้องข้างมีจิตใจอ่อนไหว ขี้เหงา ชอบคิดถึงแต่วันคืนในอดีตที่ผ่านมาแล้ว และเป็นคนที่ยึดในขนบธรรมเนียม ประเพณีต่าง ๆ ไว้เป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิต
รสช็อคโกแลตชิป เป็นคนที่ตั้งความหวังในชีวิตไว้สูง มักมองโลกในแง่ดี เป็นคนที่สามารถแก้เรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้เสมอรสผสม เป็นคนที่ชอบความหลากหลาย มีชีวิตยืดหยุ่น ชอบการประนีประนอม
ไม่ชอบกินไอติม เป็นคนที่รักอิสระเสรี ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบดำเนินชีวิตอยู่บนความ เป็นเหตุเป็นผล

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สัจธรรมของชีวิต

สัจธรรมของชีวิต..
มีเกิด..ต้องมีตาย...ไม่มีใครเกิดมาแล้ว..อยู่ค้ำฟ้า..เป็นอมตะ.ไม่มีวันแก่..ไม่มีวันเจ็บ..ไม่มีวันตาย..เพราะนี้คือ...ความเป็นจริงที่ไม่มีใครหนีพ้น..
แม้สิ่งในโลกนี้..ก็มีเกิดขึ้น..ตั้งอยู่..และเสื่อมไปเป็นธรรมดา..
มีลาภ...เสื่อมลาภ...
มียศ....เสื่อมยศ...
มีสรรเสริญ...มีนินทา...
มีสุข...มีทุกข์...
โลกธรรม 8 เหล่านี้มีอยู่จริงในโลกใบนี้...และจะยังคงอยู่ตลอดไป...

ผิวสวยด้วยแอปเปิ้ล

-ผิวอ่อนโรย ทำให้ผิวที่ดูอ่อนโรยสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็วลองนวดใบหน้าและลำคอด้วยเนื้อแอปเปิ้ลสดๆ
-สำหรับบำรุงผิวธรรมดา ปอกเปลือกแอปเปิ้ล บดให้ละเอียด และผสมกับครีมเปรี้ยว น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันเมล็ดทานตะวัน) หนึ่งช้อนชา และแป้งข้าวโพดหนึ่งช้อนชา ทาลงบนใบหน้าและทิ้วไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
-เพื่อผิวร่วงโรย พอกหน้าด้วยแอปเปิ้ลอบ หรือต้มบดละเอียดผสมกับน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้งหนึ่งช้องชา เพื่อทำให้ผิวยึดหยุ่นและชะลอกระบวนการร่วงโรยของผิว
-มือหยาบกร้าน ใช้แอปเปิ้ลสดปอกเปลือกนวดลงสัก 2-3 นาที จากนั้น ล้างมือและทาครีมให้ความชุ่มชิ้น
-ส้นเท้าแตก หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ต้มในนมจนเป็นส่วนผสมข้นๆ ทาส่วนผสมลงบนส้นเท้า ปิดทับด้วยทิชชู ทิ้วไว้ 30 นาที ก่อนล้างออก ส้นเท้าจะนุ่มนวลขึ้น


ที่มา...http://hilight.kapook.com/view/30590

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

มารู้จักกันหน่อย

แนวเพลงที่ชื่นชอบ : ทุกแนว โดยเฉพาะลูกทุ่ง เพื่อชีวิต
ศิลปินคนโปรด : ชอบทุกคนค่ะ
เกมส์โปรด : มาริโอ และเกมส์ช่วยเจ้าหญิง
รายการโทรทัศน์ที่ชอบ : O I C
หนังสือเล่มโปรด : ไม่ชอบอ่านหนังสอค่ะ
ภาพยนตร์เรื่องโปรด : ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น
คติประจำใจ(วันนี้) : อยู่ได้โดยไม่มีโพย!!
เรื่องหน้าแตก: สวยกว่าคนอื่น !
กีฬาที่ชื่นชอบ : กีฬาในร่ม
อาหารโปรด : ของฟรีค่ะ
ผู้ชาย/หญิงในสเปค : เจ้าชู ดำ สูง
ถ้าขอพรได้ 3 ข้อ อยากจะขออะไร : 1.ขอให้ชาติหน้าเกิดมาสวยแบบนี้อีก
2.ขอให้มีแต่คนรัก
3.ขอให้ได้พรเพิ่มอีกหลายๆข้อ

กลอนดีดี(เพราะด้วย)

ไกลเปิดเทอมเเล้วนะเธอคนดี จะกี่ปีเธอก็ไม่เคยสน
เเค่เรียนไปวันวันก็พอทน เเต่ควรสนเเละควรจะตั้งใจ
รีบทำผลการเรียนที่ตกต่ำ ให้ล้ำเส้นขึ้นมาจะได้ไหม
พ่อเเม่เธอคงจะได้ภูมิใจ เเละฉันไงที่ภูมิใจในตัวเธอ

เริ่มเรียนเเล้วข้าพเจ้าชักเริ่มง่วง
เริ่มปั่นปวนในใจชักไม่ไหว
อยากจะงีบซักเดี๋ยวให้สุขใจ
แต่นานไปซักไม่ไหวหลับยาวเลย
พอซักพักได้ยินเสียงใครเดินมา
โอ้ อยากบ้าทำไมห้องเงียบเพียงนี้
ตอนนี้ใจชักหวั่นเริ่มรู้ดี
เธอคนนี้ก็อาจารย์ไงอ่ะเธอ


หนูรักอาจารย์ผู้เเสนดี
อาจารย์ผู้นี้หนูรักท่านมากหนักหนา
ขออาจารย์ผู้เเสนดีช่วยกรุณา
ช่วยรักษาสุขภาพของตัวเองบ้างนะเออ
วอนอาจารย์ที่ปรึกษา
เราสนิทกันมาถึงเพียงนี้
หนูรู้อาจารย์คงรู้ดี
โปรดให้เกรดสี่หนูทีเถอะอาจารย์

วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ปิดเทอม ปิดเทอม

ปิดเทอมแล้ว ไปเที่ยวที่ไหนกันดี

ว้าว.....เกรดออกแล้ว...3.31

ได้เกรด 4 เคมี (สุดยอด)

ไม่ได้ใช้โพยด้วย...ตามฉบับนางงาม

อ้อ...ได้เป็นนางงาม(ของค่ายวิทย์ 1)

แน่จัด...******

วันนี้ได้มาเที่ยวชะอำด้วย

กินข้าวฟรี...ได้เล่นโบ๊ทด้วย(ชอบคนขับ..อิอิ)

สอบถามข้อมุลเพิ่มเติมที่ น.ส.นิมิตยา

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

Power Pointวันแม่

สวัสดีค่ะ..........อาจจะเลยวันแม่มาแล้วนะ แต่ด้วยความที่เรายังรักแม่ทุกวัน
จึงยังไม่ช้าไปที่จะเอางานที่มอบให้แม่มาให้เพื่อนๆดูกันนะค่ะ
โหลดได้ที่นี่เลยนะค่ะ

http://www.uploadd.com/download.aspx?pku=2A2187A4C53TKBJUZZTSRKWYOK57UD

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

อ่านดูสิ จริงปล่าวไม่รู้

จูบที่ จมูก หมายถึง คุณน่ารักมาก
จูบที่ แก้ม หมายถึง ฉันต้องการเธอ
จูบที่ คอ หมายถึง เธอต้องเป็นของฉัน (คืนนี้เสร็จแน่)
จูบที่ ริมฝีปาก หมายถึง ฉันรักเธอ
จูบที่ เปลือกตา หมายถึง ฉันกำลังหลงรักเธอ
เอาแหวนของคุณไปใส่ หมายถึง เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว ตลอดไป
ให้ของขวัญคุณเป็นประจำ หมายถึง เค้าเอาใจใส่ และคิดถึงคุณตลอดเวลา
จับมือ หมายถึง ฉันชอบเธอ
มองเข้าไปในตาของคุณ หมายถึง เธอรักฉันหรือเปล่า
บีบนิ้วของคุณ หมายถึง ฉันอยากจะจูบเธอ
ลูบไล้เบา ๆ ที่หัวไหล่ หมายถึง อยากจะเอาใจเธอ
กัดริมฝีปาก หมายถึง ฉันหึงนะ
ขยิบตาให้ หมายถึง ขอฉันไปกับเธอนะ
เล่นผมของคุณ หมายถึง ฉันชื่นชมเธอ
เหยียบเท้าคุณ หมายถึง ฉันเกลียดเธอ
พูดว่า "คิดถึงคุณ" หมายถึง ฉันใส่ใจเธอเสมอ
พูดว่า "คืนนี้ จะฝันถึงคุณ" หมายถึง คุณเป็นคนพิเศษ
พูดว่า "อยากจะอยู่กับคุณตลอดเวลา" หมายถึง คิดถึงคุณทุกลมหายใจ
แอบหอมคุณ หมายถึง เค้าคนนั้นเป็นคนที่สวีทสุดๆ

8 เหตุผลที่ทำให้คุณรักโรงเรียน

โรงเรียนเป็นที่ ๆ เราเติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กับที่บ้านเลยทีเดียว ตื่นเช้าไปโรงเรียน ตื่นเช้าไปโรงเรียน ทุกวันเป็นเวลา 10 กว่าปี มีเหรอจะไม่มีอะไรให้ เก็บไปประทับใจ อย่างน้อย ก็ต้องมีไว้ในใจ กันบ้างหล่ะ ก็ไม่มีที่ไหน เหมือนที่นี่อีกแล้ว นี่นา แม้จะเคยทำ เรื่องป่วน ๆ ไว้เยอะก็เหอะ แกล้งซนไป อย่างนั้นแหละ ไม่ได้ตั้งใจ ให้ใคร เดือดร้อน สักหน่อย ก็เรายังเด็กอยู่ เลยนี่นา นึก ๆ ดูก็ขำดี เหมือนกันใช่ไหม ? มานั่งนึก เรื่องที่ ทำให้เรา นั่งอมยิ้ม ได้กันดีกว่า ต้องมีเยอะ จนล้นโลกแน่ ๆ เลย จะได้คิดถึง โรงเรียน ให้มากขึ้น รักมากขึ้น ทุกวัน มีเหตุผลมากมาย ที่ทำให้เรา รู้สึกได้อย่างนี้ได้ แต่จะคัด มาเฉพาะ ที่พิเศษจริง ๆ และนี่ก็เป็น เหตุผลที่ทำให้ เรารักโรงเรียน มาจนถึงทุกวันนี้ มีคล้าย ๆ กับใครบ้างไหมหนอ ...
1. เพราะโรงเรียน ทำให้เย็นวันศุกร์มี ความหมาย ไม่มีวันไหนที่ จะทำให้เรา รอคอยได้มากเท่า เย็นวันศุกร์ อีกแล้ว เป็นวันที่ พิเศษที่สุด ของ วันที่เราต้อง ไปโรงเรียนเลย ก็ได้ ทุกคนจะ พร้อมใจ เทคะแนน ให้เป็น ขวัญใจดีเดย์ ในรอบสัปดาห์ อยากให้เย็นวันศุกร์ มาถึงเร็ว ๆ ใครไม่เคยรอบ้างล่ะ อยากรู้นัก จะได้หยุด เสาร์ - อาทิตย์ กันอีกรอบนึงไง แหม ! พูดแล้ว ก็คิดถึงจังเลยเจ้าวันศุกร์เนี่ย
2. เพราะที่โรงเรียน มีวันปิดเทอม โอ้... วัน ปิดเทอม จะมีที่ไหนมี ถ้าไม่ใช่ที่ โรงเรียน มีเรียน ก็ต้องมีหยุดพัก กันบ้าง ไม่งั้นสมอง แตกกระจุย กันพอดี เป็นที่เดียว ในโลก แน่ ๆ เลยที่วิเศษ ขนาดนี้ อยากให้ เปิดปุ๊ป ปิดปั๊ป บ่อย ๆ จะได้รักมาก ขึ้นอีก 10 เท่า พอโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ เราก็คงไม่ได้ มีวัน ปิดเทอม กัน อีกแล้ว แล้วจะไม่ให้ เรารัก โรงเรียน ได้ยังไงกันล่ะ
3. เพราะโค้กที่โรงเรียนราคาถูกกว่าที่ 7-eleven จะกินโค้กแก้วละ 5 บาทได้กี่ที่กันหล่ะในโลกนี้ เผลอ ๆ กินหมดแก้วยังไปแอบเติมได้อีก แหม ! ใคร ๆ เขาก็ทำกัน อย่าบอกเชียวนะว่า ไม่เคย โกรธกันตายเลย ก็มันโกหกกันแหงม ๆ อยู่แล้ว ถึงแก้วจะใหญ่กว่า ที่อื่น แต่มันก็ไม่พอกับความต้องการของเรานี่นา ... เราต้องการโค้ก...ส่งโค้กมาซะดี ๆ
4. เพราะหน้าโรงเรียนมีทางม้าลาย เจ้าทางม้าลาย แบนแต๊ดแต๋ ที่หน้าโรงเรียน เราชื่อ บู้บี้ เจอกันทุกวัน มันจะพาเรา ไปอีกฝั่ง ของถนน โดยการขี่ ของคุณลุงจราจร พุงกลม มันกระซิบ พวกเราว่า คุณลุงตัวหนัก ไปหน่อย แต่ก็เป็น คนที่ใจดีที่สุด ในโลกเลย เฮ้อ ... ไม่รู้ว่ตอนนี้ สบายดีรึเปล่า หวังว่า คุณลุงจราจร พุงกลม จะดูแลมัน เป็นอย่างดี เจ้าทางม้าลาย หน้าโรงเรียน ของเราเนี่ย สบายสุด ๆ เลย ไม่ต้องเหนื่อย เดินขึ้นสะพานลอย กันให้เมื่อย อยากให้ทุกที่ มีเจ้าม้าลาย อย่างที่โรงเรียนจัง
5. เพราะโรงเรียนทำให้วิ่งเร็ว เวลาเจอคุณครู ฝ่ายปกครองเนี่ย ต้องวิ่งกันเร็วจี๋ ทุกคนเลย ไม่งั้นไม่รอด แต่คุณครู ก็วิ่งเร็วขึ้น ทุกวันนะ แข่งกันใหญ่เลย วิ่งกันทั้งโรงเรียน สนุกดี วิ่งหนีคุณครู กันจนเป็น แชมป์ไป หลายคนแล้ว อย่าบอกนะ ว่าไม่เคย มาแข่งกันดูไหมหล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าโม้ แต่เอ๊ะ... สงสัยจังเลยว่า ตอนนี้คุณครู วิ่งเร็วกว่าเรา แล้วหรือยัง...ไม่ได้วิ่งเสียนาน
6. เพราะโรงเรียนมีหลังห้อง ความลับหลังห้อง มีอาจารย์เท่านั้นแหละ ที่ แกล้ง ไม่รู้ เล่นหลับทับกัน เป็นกองขนาดนั้น ไม่รู้ยังไง ไหว แต่ยังไงก็ต้องนอน ทุกวันนะ ไม่งั้นหลังห้อง จะน้อยใจ คิดอย่างนี้ เหมือนกัน ใช่ไหมหล่ะ
7. เพราะโรงเรียนมีห้องพยาบาล ห้องพยาบาล ไม่เหมือนโรงพยาบาลนะ เราไม่ชอบไป โรงพยาบาล แต่ชอบไป ห้องพยาบาล ก็ไม่ต้อง ฉีดยานี่นา และอีกอย่าง ไม่ว่าจะปวดหัว ตัวร้อน ยังไงการรักษา มีอยู่อย่างเดียว คือ ต้องนอนพัก กันไว้ก่อน แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง พอใกล้เวลากลับบ้าน เคยเป็นกัน บ้างไหมล่ะ เจ้าโรคนี้น่ะ เพื่อน ๆ เราเป็นกันทุกคน รักษาไม่เคยหาย เป็นโรคติดต่ออีกต่างหาก เฮ้อ... โรคร้ายประจำ ห้องพยาบาล
8. เพราะโรงเรียน ทำให้เราโต ขึ้นอย่าง คนที่มีคุณภาพ เราจะเบื่อ ได้ทุกข้อกับกฎ ระเบียบ ต่าง ๆ ของ โรงเรียน เบื่อได้ทุก วิชาตลอด การเรียนมาจน จบแหล่มิจบแหล่ แต่แล้ว ในวันหนึ่งที่เราจากมา เราได้เรียนรู้วว่า สิ่งที่น่าเบื่อ เหล่านั้น ทำให้เราคิดถึง อยู่เสมอว่า เรามีวันนี้อยู่ได้ อย่างไร

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

blogของเพื่อนๆ

25/1เตย http://toeiiz.blog.mthai.com/
25/2จ๊ะเอ๋ http://easyinstyle.blog.mthai.com/
26.เนตร http://blog.hunsa.com/N3dziiz
27.ออย
http://prapipis.blogspot.com
28.นก http://blog.hunsa.com/loveberry
29.โบว์ http://blog.hunsa.com/pornpan29
30.แอน http://blog.hunsa.com/30pitchaya
31.แพน http://blog.hunsa.com/sweetblood
32.มีน http://blog.hunsa.com/cassio77mean
33.อ๋อม http://omzababo.blogspot.com
34.ดา http://ziipeezodazza.blogspot.com
35.ไนล์ http://nileiiwarissara.blogspot.com

11กระบวนท่าแอ๊บแบ๊ว สู่ความสำเร็จของสาวๆ

1.อ๊ะ ฟู่ (เป่าลมสลายใจ) หาตำราท่า เพื่อใช้มัดใจหนุ่มมาให้แล้ว ค่อยๆเรียนนะครับ
2.เค้ากัวน๊า (ขอโทดสยบปฐพี)
3.อ๊ะ บาย (โบก ลา ตัดเยื่อใย)
4.บร๊าเร๋อ (ด่าเทอใจระทวย)
5.จอดรับเค๊าหน่อยน๊า(อ๊อดอ้อนสยบเทอ)
6.ตัวยิงเค้าเลยสิ (ท้าฟ้าให้จำนน)
7.โอ๊ย โหย๋ (บ๊องแบ๋วให้เทอรัก)
8.อ๊ะ ต่อยเค้าสิ (กำปั้นไม่อาจทำ)
9.อ๊ะ เพี้ยว (เล็งใจ ให้โอดครวญ)
10.อ๊ะ อึ๊บบบ (นางแอ่นถลาใจ)
11.เรียกเค้าป๊ะ (สยบชายด้วยแอ๊บแบ๊ว)

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

งานภาษาอังกฤษ Two monks

งานบทความภาษาอังกฤษค่ะ

Two monks

Two monks on a pilgrimage came to the ford of a river. there they saw a girl dressed in all her finery, obviously not knowing what to do since the river was high and she did not want to spoil her clothes. Without more ado, one of the monks took her on his back, carried her across and put her down on dry ground on t he other side

Then the monks continued on their way. But the other monk after an hour started complaining “Surely it is not right to touch a women, it is against the command to have close contact with woman. How could you go against the rules of monks?”

The monk who had carried the girl walked Along silently, but finally he remarked, I set her down by the river an hour ago, why are you still carrying her.?

Ormgard Schloegk
The Wisdom of Zen Masters

+ถอดความ นิราศนรินทร์+

ถอดความ นิราศนรินทร์
ผู้แต่ง นายนรินทร์ธิเบศ


๑. ศรีสิทธิ์พิศาลภพ
เลอหล้าลบล่มสวรรค์
จรรโลงโลกกว่ากว้าง
แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ
ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า
แจกแสงจ้าเจิดจันทร์
เพียงรพิพรรณผ่องด้าว
ขุนหาญห้าวแหนบาท
สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน
ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า
ราญราบหน้าเภริน
เข็ญข่าวยินยอบตัว
ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว
ทุกไทน้าวมาลย์น้อม
ขอออกอ้อมมาอ่อน
ผ่อนแผ่นดินให้ผาย
ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว
เลี้ยงทแกล้วให้กล้า
พระยศไท้เทิดฟ้า
เฟื่องฟุ้งทศธรรม
ท่านแฮ
1.อยุธยา เป็นเมืองที่กว้างใหญ่สวยงามกว่าเมืองใดในโลก จนชนะสวรรค์ได้ พระมหากษัตริย์ทรงผดุงแผ่นดินให้กว้างขวางราวกับแผ่นดินสวรรค์ อยุธยางามรุ่งเรืองในท้องฟ้า ส่องแสงสว่างจ้ากว่าแสงจันทร์ และสว่างราวแสงอาทิย์ที่ส่องโลก พระมหากษัตริ์ทรงมีแม่ทัพผู้กล้าหาญทรงขจัดความทุกข์ของชาวเมือง และทรงปราบศัตรูได้ราบคาบ พระเดชที่ร่ำลือทำให้แผ่นดินอื่นเกรงกลัว พากันนอบน้อมเป็นเมืองขึ้น พระองค์ทรงขยายอาณาจักรไปกว้างขวาง ทรงบำรุงทหารให้กล้าแข็ง และทรงชี้ทางประเสริฐให้แก่ประชาชนของพระองค์ ด้วยพระเดชานุภาพแพระบารมีที่เลื่องลือ ทรงเนพระมหากษัตริ์ที่ทรงมีพระเกียรติยศที่ได้รับการยกย่องไปถึงสวรรค์ และมีทศพิธราชธรรมที่เลื่องลือ

๒. อยุธยายศล่มแล้ว
ลอยสวรรค์ ลงฤา
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร
เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์
ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า
ฝึกฟื้นใจเมือง
2.กรุงศรีอยุธยาล่มแล้ว ที่เห็นว่ารุ่งเรืองนั้นได้ลอยลงจากสวรรค์แล้วหรือ..ปราสาทราชวังที่งดงาม ตระการอยู่บนแผ่นดิน บุญที่พระองค์ได้สร้างไว้พระองค์ได้ทำนุบำรุงศาสนาให้รุ่งเรือง ได้ปิดบังทางแห่งความล่มจม ทรงให้ราษฎรตื่นจากความหลงในการบาปต่างๆ
๓.เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น
พันแสง
รินรสพระธรรมแสดง
ค่ำเช้า
เจดีย์ระดะแซง
เสียดยอด
ยลยิ่งแสงแก้วเก้า
แก่นหล้าหลากสวรรค์
3.ความรุ่งเรืองของพระรัตนตรัย ซึ่งรุ่งเรืองยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ มีการแสดงธรรมทุกค่ำเช้า เจดีย์ที่เรียงรายสูงเสียดกัน มองดูงดงามยิ่งกว่าแสงจากแก้วเก้าประการ เป็นหลักของแผ่นดินและสวรรค์

๔. โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น
ไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลาน
พระแผ้ว
หอไตรระฆังขาน
ภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้ว
ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์
4.ทั้งโบสถ์ระเบียงมณฑปและวิหาร ธรรมาสน์ ศาลาลาน หอไตร เสียงระฆังตอนค่ำ แสงจากโคมสว่างไปทั่วท้องฟ้า ทำให้แสงจันทร์สว่างน้อยลง

๑๐. โฉมควรจักฝากฟ้า
ฤาดิน ดีฤา
เกรงเทพไท้ธรณินทร์
ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบิน
บนเล่า นะแม่
ลมจะชายชักช้ำ
ชอกเนื้อเรียมสงวน
10.จะฝากน้องกับฟ้าหรือดินดี ถ้าฝากฟ้าก็ไม่ไว้ใจเทวดา ฝากกับลม ลมก็จะทำให้น้องบอบช้ำ

๔๕. ชมแขคิดใช่หน้า
นวลนาง
เดือนดำหนิวงกลาง
ต่ายแต้ม
พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง
จักเปรียบ ใดเลย
ขำกว่าแขไขแย้ม
ยิ่งยิ้มอัปสร
45.ดูพระจันทร์ก็รู้ว่าไม่ใช่หน้าของน้อง เพราะที่กลางดวงจันทร์มีรอยตำหนิเป็นรูปกระต่าย แต่หน้าของน้องอิ่มสะอาด จะเอาสิ่งใดมาเปรียบเทียบมิได้เลย งามยิ่งกว่าดวงจันทร์ และงามยิ่งกว่ายิ้มของนางอัปสร

๑๑๘. ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ
สงสาร อรเอย
จรศึกโศกมานาน
เนิ่นช้า
เดินดงท่งทางละหาน
หิมเวศ
สารสั่งทุกหย่อมหญ้า
ย่านน้ำลานาง
118.ถึงเมืองตระนาวศรี สงสารน้อง ไปศึกมานานช้า เดินดงทุ่งและน้ำ ได้สั่งหญ้าและน้ำฝากให้ส่งไปถึงน้อง

๑๒๒. พันเนตรภูวนาถตั้ง
ตาระวัง ใดฮา
พักตร์สี่แปดโสตฟัง
อื่นอื้อ
กฤษณนิทรเลอหลัง
นาคหลับ ฤาพ่อ
สองพิโยคร่ำรื้อ
เทพท้าวทำเมิน
122.พระอินทร์จะตั้งตาคอยระวังใครอยู่ พระพรหมก็ฟังเสียงอื่นเสียหมด พระนารายณ์ก็บรรทมเหนือพญานาคหรืออย่างไร ท่านเหล่านั้นทำไมจึงได้เมินเฉยต่อความโศกเศร้าของเราทั้งสอง

๑๔๐. ตราบขุนคิริข้น
ขาดสลาย แลแม่
รักบ่หายตราบหาย
หกฟ้า
สุริยจันทรขจาย
จากโลก ไปฤา
ไฟแล่นล้างสี่หล้า
ห่อนล้างอาลัย
140.ตราบที่ภูเขาสลายไป รักพี่ไม่หายไปจากฟ้าทั้งหก ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์จะสลายไปจากโลก ไฟจะล้างทั้งสี่ทวีป ก็ไม่อาจล้างความอาลัยเลย

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

สรุป อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ลักษณะการประพันธ์ กลอนบทละคร
สรุปเรื่อง
เมื่ออิเหนาได้จินตะหรา ธิดาท้าวหมันหยาเป็นชายา และไม่ยอมกลับไปอภิเษกกับบุษบา ท้าวดาหากริ้วมากจึงประกาศว่า กษัตริย์ผู้ใดมาขอบุษบาก็จะยกให้ ระตูจรกา อนุชาของระตูเจ้าเมืองล่าสำ ได้เห็นรูปบุษบาได้มาสู่ขอบุษบาเป็นคู่ตุนาหงัน ในเวลาใกล้ๆกันนั้น วิหยาสะกำเจ้าชายหนุ่มรูปงาม โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งทูตไปขอบุษบา แต่ถูกท้าวดาหาปฏิเสธ จึงเรียกน้องชายที่เป็นเจ้าเมืองประหมัน และปะหยังมาช่วยรบ แม้น้องชายทั้งสองของท้าวกะหมังกุหนิงจะทรงทัดทานมิให้ทำศึกแต่ก็มิอาจทำให้ทรงเปลี่ยนพระทัยได้เลย
ฝ่ายท้าวดาหา ได้ส่งข่าวศึกไปยังเมืองกุเรปัน ซึ่งทรงใช้ให้กะหรัดตะปาตี ยกทัพมาพร้อมกับทรงมีราชสาส์นไปถึงอิเหนากับท้าวหมันหยา อิเหนาจึงยกทัพมาพร้อมกับระเด่นดาหยนคุมกองทัพหมันหยามาด้วย ด้านเมืองกาหลังได้ส่งตำมะหงงและดะหมังยกทัพมาช่วย เมืองสิงหัดส่าหรีได้ให้สุหรานากงยกทัพมาช่วย
ในการรบวิหยาสะกำเข้ารบกับสังคามาระตาและถูกสังคามาระตาแทงด้วยทวนจนถึงแก่ชีวิต ท้าวกะหมังกุหนิงเข้ารบกับอิเหนาและถูกอิเหนาใช้กริชแทงถึงแก่ชีวิตเช่นกัน ฝ่ายระตูทั้งสองคือ ท้าวประหมันและท้าวปะหยังเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงขอยอมแพ้แก่อิเหนาในที่สุด
ประโยชน์และคุณค่าที่ได้จากเรื่อง
1.ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน
2.ให้ความรู้เกี่ยวกับบทละครและความรู้เกี่ยวกับวรรณคดีไทย
3.ให้คติข้อคิดต่างๆ เช่น เรื่องสงครามจะนำมาสู่ความหายนะ และในเรื่องการแสดงให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

แต่งสวยตามราศี(ต่อ)

วันนี้มาต่อกันกับราศีมีน และ ราศีเมษ
สาวราศีมีน(16 มี.ค. – 15 เม.ย.)สาวราศีมีนมีรอยยิ้มน่ารัก ชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม มีน้ำใจและเอื้ออารี มีพลังดึงดูดใจด้วยดวงตาหวานจับใจ ควรใช้สีชมพูอมม่วงอ่อน สีเขียวอ่อน หรือสีควันบุหรี่ประกายขาวสดใส แก้มควรใช้บลัชออนสีชมพูอ่อน ชมพูม่วง และสีส้มอิฐ ริมฝีปากสีชมพูประกายสดใสและชมพูประกายม่วง สาวมีนควรใส่ใจกับใบหน้าและรอยยิ้ม เพื่อเสริมให้สาวธาตุนี้มีชีวิตชีวาเสมอ
สาวราศีเมษ(16 เม.ย. – 15 พ.ค.)สาวธาตุไฟ โดดเด่น เชื่อมั่นในตัวเองสูง มีบุคลิกเฉพาะตัว ดวงตาของสาวธาตุไฟควรปัดมาสคาร่าสีสว่าง เน้นเปลือกตาด้วยสีเงิน สีบรอนซ์ สีชมพูแดง และสีน้ำตาลทอง โหนกแก้มสว่างด้วยการใช้สีบรอนซ์เงิน สีม่วงและสีส้มแดง ริมฝีปากเพิ่มความมันวาวด้วยสีชมพูแดง ส้มโอลด์โรส ชมพูประกายใส น้ำตาลแดงและแดงแตงโม จะมีพลังในตัวเอง น่าค้นหา มีเสน่ห์ไม่รู้จบ

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

แต่งสวยตามราศี (ต่อ)

วันนี้มาสวยกันต่อแล้วกันกับ
สาวราศีมังกร(16 ม.ค. – 15 ก.พ.)
คุณคือสาวธาตุดินผู้ปราดเปรียวมีพลังสร้างสรรค์ ชอบชีวิตอิสระบุคลิกคล่องแคล่ว ควรใช้สีสันของธาตุไฟเสริมราศี ดวงตาใช้สีส้ม น้ำตาล น้ำตาลทอง โหนกแก้มปัดด้วยสีโทนชมพู ส้ม อิฐ สีโอลด์โรส เพิ่มรอยยิ้มด้วยสีแดงกุหลาบ ส้มโอลด์โรส ชมพูเหลือบม่วงหรือน้ำตาลเหลือบม่วง
สาวราศีกุมภ์(16 ก.พ. – 15 มี.ค.)
สาวราศีกุมภ์คือสาวธาตุลม สดใส ร่าเริง เจ้าความคิด มีพลัง ควรใช้สีสันที่เป็นธรรมชาติ เน้นริมฝีปากด้วยสีสว่างสดใสเช่น แดงอมชมพู ชมพูเหลือบม่วง และชมพูประกายสดใส เสริมความมั่นใจด้วยไฮไลท์ที่สันจมูก ดวงตาสีท้องฟ้าประกายเหลือบทอง สีชมพูอ่อนหรือสีบรอนซ์เงิน ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีอ่อน ชมพูอ่อน ม่วงอ่อน เพื่อสุขภาพผิวสดใส โดดเด่นชวนมอง

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แต่งสวยตามราศี

มาดุการแต่งหน้าตามราศีกัน
สาวราศีพิจิก(16 พ.ย. – 15 ธ.ค.)
สาวผู้ทระนง ลึกลับซ่อนเร้น เก็บความรู้สึกดี เป็นสาวธาตุน้ำ ควรแต่งแต้มเปลือกตาด้วยสีม่วง สีฟ้าอ่อนและสีเขียวน้ำทะเล เพิ่งพลังของแววตาด้วยประกายทองและฟ้า แก้มสีชมพูระเรื่อ สีม่วง ริมฝีปากสีชมพูเข้ม ชมพูแชมเปญ ชมพูเหลือบม่วง นี่คือสีสันแห่งชีวิตคุณ
สาวราศีธนู(16 ธ.ค. – 15 ม.ค.)
สาวธาตุไฟผู้มาดมั่น เปี่ยมด้วยศรัทธาในตนเองและผู้อื่น น่ารักในแบบฉบับเฉพาะตัว ควรมีสีสัน น้ำตาลทอง หรือสีออกส้มแดงและสีอิฐที่แก้ม แต่งเปลือกตาด้วยน้ำตาล น้ำตาลทอง เขียว และสีชมพูแดง ริมฝีปากสีธรรมชาติของส้มสด ส้มโอลด์โรส ชมพูกลีบกุหลาบสดใส และสีน้ำตาลเหลือบม่วง ควรเสริมความมันวาวให้ริมฝีปากดูเย้ายวนใจเพิ่มเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน

4 วิธีป้องกันการเป็น ‘ปลาทอง’

1. กินอาหารที่มีประโยชน์สถาบันประสาทวิทยาแห่งสหรัฐฯ รายงานว่า การกินผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ส้ม ผักโขม แครอท บร็อค-โคลี มะเขือเทศ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสโตรคถึง 11% แถมยังช่วยบำรุงให้เซลล์สมองสามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่วิตามินบีโดยเฉพาะ บี12 และกรดโฟลิกช่วยลดการเสี่ยงในการเป็นโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย
2. ออกกำลังกาย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพดี การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือบอดี้คอมแบต ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานดีขึ้น และช่วยกำจัดไขมันที่เกาะตามเส้นเลือด นั่นหมายความว่าเลือดจะสามารถนำออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง การออกกำลังกายยังช่วยให้คุณนอนหลับสนิท ทำให้สมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องถึงขนาดวิ่งวิบากก็ได้ครับ แม้แต่การรำมวยจีน โยคะ ก็ช่วยให้พัฒนาสมองได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่อย่าลืมดื่มน้ำหลังการออกกำลังกายด้วย เพราะการขาดน้ำอาจทำให้สมองทำงานได้ไม่เต็มที่
3. ออกกำลังสมองถ้าอยากให้ร่างกายแข็งแรงก็ต้องออกกำลังกาย เช่นเดียวกัน ถ้าอยากให้สมองแข็งแรงก็ต้องออกกำลังสมอง พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้สมองนั่นแหละครับ มีหลายวิธีที่ทำให้สมองของคุณได้ใช้งาน เช่น การเล่นหมากรุก การอ่านหนังสือ การเล่นเกมอักษรไขว้ อย่ากลัวที่จะเรียนภาษาใหม่ๆ หรือเรียนดนตรีตอนอายุมากแล้ว เพราะนั่นเป็นการออกกำลังสมองอย่างดีเลยละครับ ต่อให้คุณมีระบบจดจำหมายเลขโทรศัพท์แล้ว ลองจำหมายเลขโทรศัพท์ของคนใกล้ชิดไว้ในสมองสิครับ หรือเวลารถติดก็ลองเอาเลขป้ายทะเบียนรถคันข้างหน้ามาบวกลบคูณหารกัน สมองมีไว้ใช้ ถ้าไม่ใช้ก็มีแต่จะเสียมันไปเท่านั้น
4. หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้านึกถึงตอนที่คุณเมาจนจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนคุณทำตัวน่าอายแค่ไหนนั่นแหละครับ แม้จะเป็นเพียงแก้วสองแก้ว แอลกอฮอล์ก็สามารถไปรบกวนการสร้างความจำระยะยาว (Long-term memories) ได้เหมือนกัน การวิจัยอีกหลายชิ้นก็ชี้ว่า ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไรก็ยิ่งเสี่ยงต่อการทำลายความจำมากขึ้น เห็นแบบนี้แล้วอย่าใช้มันเป็นข้ออ้างในการดื่มเพื่อลืมเธอเลยนะคุณ ใจก็เสียไปแล้ว อย่าให้สมองเสียไปอีกเลย

สุขภาพกับหมู่เลือด

หมู่เลือด O
คนหมู่เลือดนี้ มีอวัยวะในการย่อยที่แข็งแรง จึงมีระบบภูมิคุ้ยกันผลกระทบจากอาหารที่เหลือในร่างกาย อาหารที่คนหมู่เลือดนั้นไม่ควรขาด คือโปรตีนจากสัตว์ และเนื้อปลาดังนั้นวิธีลดความอ้วน คือทานเนื้อสัตว์ แต่ที่ไม่ควรทาน คือเนื้อติดมัน แต่เนื้อวัวหรือเนื้อนกที่ไม่ผ่านกระบวนการทางเคมี เหมาะสำหรับคนพวกนี้ โดยเฉพาะเนื้อปลา การที่คนหมู่เลือดนี้ควรทานเนื้อสัตว์ เพราะกรดในกระเพาะมาก จึงย่อยเนื้อสัตว์ได้ง่าย เผาผลาญได้เร็วและอย่าลืมออกกำลังกาย พยามยามหลีกเลี่ยงอาหารพวกพืชเมล็ดแข็งและขนมปัง เพราะไปขัดขวางการย่อมอาหารของคนหมู่เลือด O
หมู่เลือด A
แต่เดิมหมู่เลือดนี้ เป็นของคนที่ชอบทานพืชผัก ผลไม้เมื่อเปรียบเทียบกับหมู่เลือด O แล้วมีระบบการย่อยแย่กว่า ดังนั้น ถ้าหากจะลดความอ้วน จึงควรทานผักสดเป็นหลัก ที่เหมาะที่สุด คือ พืชตระกูลถั่ว และที่ไม่ควรขาดคือ เต้าหู้ โดยเฉพาะช่วงลดความอ้วนเหมาะจะทานพืชที่มีโปรตีนทดแทน อย่าทานเสื้อสัตว์ จะทำให้น้ำหนักลดลงโดยธรรมชาติและควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนม โยเกิร์ต ไอศกรีม เนย ถ้าอยากทานจริงๆ ให้ดื่มนมเปรี้ยวดีที่สุด หรือนมไม่มีไขมัน
หมู่เลือด B
คนหมู่เลือดนี้ B มีร่างกายที่สมดุลมากกว่าคน 2 หมู่เลือดข้างต้น และมีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งกว่าด้วย จัดว่าเป็นคนแข็งแรง และมีอัตราการเป็นโรคหัวใจกับมะเร็งต่ำ จึงสามารถทานอาหารได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์
ถ้าเป็นประเภทเนื้อสัตว์ ควรทานเนื้อที่มีมันน้อย และปลา ผลิตภัณฑ์ประเภทนมก็ทานได้ และเพื่อช่วยให้การดูดซึมดียิ่งขึ้น ควรทานน้ำมันมะกอก หลีกเลี่ยงพืชตระกูลถั่ว เพราะจะทำให้อัตราเผาผลาญต่ำลง และไขมันจากอาหารที่ทานเข้าไปสะสมมากขึ้น อาหารทะเล เช่น ปู กุ้ง หอย และเนื้อไก่ ก็ไม่เป็นผลดีต่อคนหมู่เลือดนี้
หมู่เลือด AB
คนหมู่เลือดนี้เป็นลักษณะผสมระหว่างหมู่เลือด A กับ B จึงต้องปรับการทานอาหารตามสภาพการณ์ แต่ว่าคนที่ระบบการย่อยไม่ดี อาหารที่คนหมู่เลือด A กับ B ทานไม่ได้ ก็ไม่ควรทานเช่นกัน
ทานประเภทเนื้อสัตว์ได้ แต่อย่ามากนัก ควรทานเนื้อแกะ แต่หลีกเลี่ยงเนื้อวัวและเนื้อไก่ โปรตีนที่ควรได้มาจากโปรตีนของปลา และไข่ไก่ คนหมู่เลือดนี้ที่เป็นมะเร็งเต้านมควรทานหอยทาก จะดีที่สุด
นอกจากนั้น เต้าหู้ก็เหมาะกับคนหมู่เลือดนี้ ทานเนื้อสัตว์น้อยๆ ทานผักให้มากแต่หลีกเลี่ยงมันฝรั่ง ปาล์ม และข้าวสาลี

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นิยามควมรัก

เขาว่าการชนะใจตัวเองนั้น … อาจดีและมีค่าที่สุด
แต่ในเรื่องความรัก …
การชนะใจคนที่เรารักนั้น อาจย่อมมีค่ากว่า
แต่มันอาจมีค่ากว่านั้น …
ถ้าคุณสามารถชนะใจตัวเอง ที่จะปฏิเสธกับความรักที่ย้อนมาหา
และมันอาจมีค่าที่สุด …
ถ้าคุณยอมที่จะ "แพ้" ใจตัวเอง เพื่อจะกลับไปหาความรักนั้น
ความรัก … เป็นเรื่องของคนสองคน
แต่อย่าลืมว่า บนโลกไม่ได้มีแค่เขาทั้งคู่
อย่าโกรธเขา ที่ต้องปฏิเสธรักจากคุณ
ด้วยเหตุผลว่า … เราเข้ากันไม่ได้
ด้วยเหตุผลว่า … สังคมเราต่างกัน
ด้วยเหตุผลว่า … เขายังรักคุณอยู่
ด้วยเหตุผลว่า … เขารักคนอื่นที่มีค่าพอกับคุณ

นิยามควมรัก

เขาว่าเรื่อง "ความรัก" ไม่มีคำว่าถูกและผิด
คุณไม่ผิด … ที่ไปรักเขาคนนั้น
และเขาเองก็คงไม่ผิด … ที่ไม่ได้รักคุณ
ในทางตรงข้าม …
คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเขาคนนั้น
และเขาก็ไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกัน
การห้ามใจไม่ให้รักนั้น … ยากนัก
แต่คงเทียบไม่ได้ … กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า
คุณอาจทำได้ … เมื่อมีใครอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตคุณ
แต่มันคงไม่ง่าย …
ถ้าคุณต้องหักใจให้ลืม ในขณะที่คุณอยู่คนเดียว

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

รอแม่กลับมา

แม่ . . . แม่ . . . คำนี้ เคยเรียกขาน แม่ . . . แม่ . . . คำนี้ เหมือนเมือวาน เคยเรียกไว้ แม่ . . . แม่ . . . คำนี้ อยากจะเรียก จนวันตาย แม่ . . . แม่ . . . หนูอยู่ไหน ให้กลับมา

มองคนอื่น เขาเรียกแม่ แล้วใจสั่น ทุกคืนวัน แสนเหงา เศร้าหนักหนา แม่จากไปไม่มีวัน หวนกลับมา โอ้แม่จ๋า แม่ . . . แม่ คิดถึงจัง

ตอนแม่อยู่ หนูรู้ว่าแม่บ่น แม่ด่า ก็หนูบอกแม่แล้วว่า . . . อย่ามายุ่งกับหนูได้ไหม หนูรู้ทุกอย่าง หนูทุกทางที่เดินไป ก็หนูเติบใหญ่ ไม่ต้องให้แม่มาสอน มาบ่นให้ฟัง

แต่พอมาวันนี้ ที่แสนเศร้า หนูคิดถึงวันเก่าๆ ที่แม่สอน หนูอยากกลับ อยากวอนย้อนวันวาน ให้แม่ได้อยู่กับหนูนานๆ ได้ไหมเออ…

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ข้อแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ...

ผู้ชาย จ่ายเงิน 10 บาท เพื่อให้ได้ของราคา 5 บาท ถ้าเขาต้องการมัน
ผู้หญิง จ่ายเงิน 5 บาท เพื่อให้ได้ของ 10 บาทที่เธอไม่ต้องการ
แต่เพราะมันลดราคา
ผู้หญิงกังวลเกี่ยวกับอนาคต..........จนกว่าเธอจะมีสามี
ผู้ชายไม่เคยกังวลเกี่ยวกับอนาคต..........จนกว่าเขาจะมีภรรยา
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จคือ........คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภร­รยา
ของเขาสามารถใช้ให้หมดได้
ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จคือ..............ผู้หญิงที่หาผู้ชายคนดังกล่าวเจอ
การจะมีความสุขกับผู้ชาย.......................คุณจะต้องเข้าใจเขาให้มาก
โดยรั­กเขาเพียงนิดเดียวก็พอ
การจะมีความสุขกับผู้หญิง......................คุณต้องรักเธอมากๆและ
อย่าคาดหว­ังว่าจะเข้าใจเธอ
ชายที่แต่งงานแล้วอายุยืนกว่าชายที่เป็นโสด..................แต่ชาย
ที่แต่งงานแล้วยินดีจะตายมากกว่า
ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายโดยคาดหวังว่า.....เขาจะเปลี่ยนแปลง..................­...
แต่เขาไม่
ผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงโดยคาดหวังว่า.....เธอจะไม่เปลี่ยน...................­...
แต่เธอเปลี่ยนไป....
ผู้หญิงจะเป็นคนกล่าวคำสุดท้ายในการโต้เถียงทุกครั้ง
ชายผู้ใดกล่าวอะไรหลังจากนั้นจะเป็นการเริ่มการโต้เถียงครั้งใหม่
.................................................

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

14 อย่างที่คิดว่าที่สุดแล้ว

14 อย่างที่สุดในชีวิต
1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง
2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี
3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง
4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา
5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง
6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง
7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง
8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ
9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง
10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ
12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา
13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน